ปลูกมะเขือเทศปลอดสารเคมี




มะเขือเทศมีอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเขือยาว มะเขือสีม่วง มะเขือจาน มะเขือขาว มะเขือพวง ฯลฯ ในฉบับนี้ ขอพูดถึงวิธีการปลูกมะเขือเทศแบบปลอดสารเคมี ให้ผู้อ่านสามารถนำไปเพาะปลูกทำกิจกรรมยามว่าง เป็นสวนครัวหลังบ้านได้บ้าง

มะเขือเทศชอบอากาศที่อบอุ่น ช่วงรอยต่อระหว่างฤดูหนาวสู่ฤดูร้อน ช่วงเปลี่ยนฤดู ชอบดินที่มีอินทรีย์วัตถุมาก สภาพดินปนทรายจะดีมาก ไม่ชอบลักษณะดินที่เป็นดินเหนียวจัด เพราะเมื่อออกผล ผลมะเขือหรือมะเขือเทศส่วนมากจะแตกเป็นรอยร้าวทำให้ผลไม่สวยคนไม่นิยม ทำให้ผลเสียหายได้ง่าย

คุณประโยชน์ที่มีต่อผู้บริโภค มะเขือเทศมีวิตามินเอสูง เนื้อภายในผลมีน้ำมาก มีวิตามินซี ช่วยให้เกิดความอยากอาหาร และยังช่วยในการย่อยอาหารได้ดี แก้คอแห้ง วิตามินเอของมะเขือเทศมีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวไม่หยาบกร้าน อีกทั้งยังมีสารประเภทแอนติออกซิแดนท์ (antioxidant) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อต้านมะเร็ง หรือที่นักโภชนาการหลาย ๆ ท่านได้แนะนำว่า ถ้ารับประทานมะเขือเทศอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ชายจะสามารถป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้เป็นอย่างดี

จะเห็นว่าสรรพคุณของมะเขือเทศมีมากมายเกินที่จะบรรยาย แต่ถ้าผู้บริโภครับประทานมะเขือเทศที่ได้จากการผลิตที่ใช้สารเคมี ก็ไม่รู้ว่ามะเขือเทศจะให้คุณหรือทำให้เกิดโทษแก่ผู้บริโภคเอง ยังไม่รวมถึงการสูญสลายเสื่อมโทรมของธรรมชาติที่ถูกจัดการโดยสารเคมี การถอถอยของคุณภาพดิน น้ำ การล่มสลายของชุมชน หรือตอนนี้กำลังจะมีมะเขือเทศตัดแต่งพันธุกรรม (GMOs) เข้ามาอีกยิ่งต้องระวังภัยที่จะเกิดขึ้นต่อเกษตรกร หรือผู้บริโภคเอง ดังนั้นผู้อ่านจึงควรหันมาเพาะปลูกมะเขือเทศเพื่อกินเองแบบปลอดสารเคมีจะดีกว่า

มะเขือเทศ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lycopersicon esculentum Mill ชื่อวงศ์ Solanaceae นิยมปลูกเป็นผักสวนครัว รับประทานสด มีทั้งผลเล็กและผลใหญ่ มีรูปทรงของผลหลายรูปแบบทั้งกลม แบน รี รูปไข่ เปลือกนอกมีสีแสด สีแดง สีเหลืองแกมขาว เป็นที่นิยมรับประทานกันทั่วไป ใช้กับตำส้มตำ อาหารโปรดของคนอีสาน แต่เดี๋ยวนี้นิยมโดยทั่วไปแล้ว และอีกชนิดหนึ่งคือ ผลที่มีรูปทรงคล้ายลูกแอปเปิล เนื้อหนา แข็ง สุกจะมีสีแดงจัด พันธุ์ที่นิยมเพาะปลูกกันโดยทั่วไปคือมะเขือเทศพันธุ์สีดา พันธุ์สีดาห้างฉัตร พันธุ์เอสวีอาร์ลีซี 4 พันธุ์แอล 22

การเพาะปลูกและดูแลรักษา

มะเขือเทศ เป็นพืชที่ชอบดินที่มีการระบายน้ำดี พื้นที่ดินร่วนปนทรายจึงเหมาะที่จะปลูกมะเขือเทศ ให้กำจัดวัชพืชหรือไม่ใช้ขึ้นรบกวนแย่งอาหารในดินของมะเขือเทศ

การปลูกเอาเมล็ดพันธุ์แช่น้ำไว้ก่อน 1 วัน แล้วนำไปหว่านลงบนแปลงเพาะกล้าที่เตรียมไว้ หรือจะเพาะในกระบะก็ได้ เพื่อหว่านเมล็ดลงบนแปลงเพาะแล้วให้ใช้ดินกลบบาง ๆ รดน้ำตามให้ชุ่ม แล้วใช้ฟางคลุมไว้เพื่อป้องกันเมล็ดพันธุ์และพื้นดินบริเวณแปลงเพาะร้อนเกินไป หรือการระเหยของน้ำจากแปลงมากเกินไป จะทำให้กล้ามะเขือไม่งอกได้

เมื่อกล้ามะเขือเทศแตกใบแท้ได้ 2-3 ใบ ประมาณ 15-20 วัน ให้ย้ายกล้าลงถุงดำหรือถุงพลาสติกสำหรับเพาะกล้าขนาด 4×6 นิ้ว ดินที่ใส่ไว้ในถุงจะเป็นดินผสมสูตร 1:1:1คือ ดินร่วน 1 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน และเศษซากวัสดุอินทรีย์ เศษใบไม้ แกลบดำหรือแกลบดิบ รวมกัน 1 ส่วน แล้วนำมาผสมให้เข้ากัน ให้เป็นจุดเพาะกล้าครั้งที่ 2 หรือจุดอนุบาลกล้า เมื่อกล้าที่อยู่ในถุงเพาะมีอายุได้ 30 วัน จึงให้ย้ายลงปลูกในแปลงปลูก โดยใช้วิธีกรีดถุงให้ขาด เพื่อป้องกันรากไม่ให้ถูกกระทบกระเทือน จึงไม่ควรถอดต้นกล้ามะเขือเทศออกจากถุง

แปลงปลูก

ยกร่องแปลงปลูกกว้าง 3 ฟุต ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เป็นปุ๋ยรองพื้นผสมลงไปในแปลงปลูก ปุ๋ยหมักที่ใช้ในมะเขือเทศให้มีปริมาณของธาตุโปรแตสเซียมมาก ๆ อาจใส่กระดูกป่นหรือขี้เถ้าแกลบเผา ถ่าน ใส่เพิ่มเติมลงไปในปุ๋ยหมักด้วยยิ่งดี ขุดหลุมระยะห่างกันหนึ่งฟุตครึ่ง ลึกประมาณ 6-8 นิ้ว แล้วรองพื้นด้วยปุ๋ยหมัก สูตรเพิ่มธาตุอาหารโปรแตสเซียมลงไป เมื่อนำกล้ามะเขือเทศลงปลูกให้ตั้งต้นกล้า ให้ตรงลงกลางหลุมกดโคนต้นกล้าเบา ๆ แล้วนำดินดีทับข้างบน ควรมีร่มพรางกันแดดแก่ต้นกล้าที่ปลูกใหม่ โดยอาจจะใช้ใบกล้วยหรือถุงกระดาษเพื่อคลุมกันแดด เมื่อต้นกล้าตั้งตัวได้แล้วจึงเอาออก

การดูแลรดน้ำ

ควรรดน้ำให้ชุ่มอยู่เสมอ และควรใช้น้ำสกัดจุลินทรีย์ เพื่อเป็นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และควรใส่ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกเพิ่มเติมประมาณ 2 อาทิตย์ใส่ครั้ง พร้อมพรวนโคนกำจัดวัชพืชให้มะเขือเทศไปในตัว เป็นการทำลายที่พักอาศัยของแมลงศัตรูมะเขือเทศได้อีกทางด้วย มะเขือเทศมีทั้งชนิดที่เป็นต้นตรงและต้องทำค้าง ถ้าชนิดต้นตรงแข็งไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นชนิดเลื้อยค้างนี่ต้องทำค้างให้มะเขือเทศด้วย การทำค้างเช่นเดียวกับค้างบวบ โดยปักค้างไม้ไผ่รอบหลุม 2 ข้างแล้วเอนปลายเข้าหากันผูกเป็นกระโจม วางไม้พาดเข้าหากันในแต่ละหลุม แล้วใช้ลวดขึงระหว่างหลุมยาวหากันเพื่อให้มะเขือเทศขึ้นค้างได้สะดวกและง่ายต่อการดูแล


การปลูกมะเขือเทศเพื่อรับประทานผลสด นิยมปลูกแบบขึ้นค้าง การดูแลรักษารดน้ำให้สม่ำเสมอ ตัดแต่งกิ่งให้ดีจะทำให้ผลใหญ่ขึ้น การเก็บผลผลิตมะเขือเทศ เริ่มให้ผลผลิตและเก็บผลผลิตได้ขึ้นอยู่กับอายุของพันธุ์ แต่โดยทั่วไปเริ่มให้ผลผลิตได้ทั้งหมดประมาณ 4-5 เดือนทีเดียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น